วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

ยารักษาผมร่วง

ยารักษาผมร่วงมีหลายกลุ่มและออกฤทธิ์ต่างกัน แต่ความเข้าใจของคนทั่วไปมักจะเรียกว่าเป็นยาปลูกผม



ภาวะศีรษะล้านโดยทั่วไปรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ภาวะหรืออาการผมร่วงสามารถลดลงและเส้นผมสามารถถูกกระตุ้นให้ขึ้นใหม่ได้โดยใช้ยาปลูกผม ประสิทธิภาพของยาปลูกผมขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรงของอาการร่วง ยาปลูกผมโดยทั่วไปที่นิยมใช้กันมีดังนี้ 

  1. Minoxidil - ไมน็อกซิดิล ได้รับการรับรองในการใช้เพื่อการรักษาผมร่วงจากพันธุกรรม (Androgenic Alopecia) และผมร่วงเป็นหย่อม ๆ (Alopecia Areata) มีทั้งชนิดที่ใช้เป็นยากิน และยาทาภายนอกบริเวณหนังศีรษะที่พบว่ามีผมร่วงมาก ใช้ได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ในรูปของยาทาใช้ทาวันละ 2 ครั้งและใช้ได้ดีในผู้ที่มีผมร่วงตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ฤทธิ์ของยาจะช่วยลดการหลุดร่วงของผม และกระตุ้นให้ผมขึ้นใหม่ ในรูปแบบของยาทามี 2% และ 5% ส่วนผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ คันบริเวณหนังศีรษะและแอลกอฮอล์ที่ใช้ทำละลาย อาจทำให้หนังศีรษะแห้งได้ ผลข้างเคียงของยาในรูปแบบยากิน ได้แก่ บวมที่บริเวณหน้าและแขน – ขา , หัวใจเต้นเร็ว, เวียนศีรษะ, ขนขึ้นบริเวณใบหู และอาจทำให้เกิดผมร่วงได้ในช่วงระยะแรกของการใช้ยา เมื่อหยุดการใช้ยาฤทธิ์ของยาก็จะหมดไป ผมที่ขึ้นใหม่ก็จะหยุดขึ้นด้วย การใช้ยาจะเริ่มเห็นผลที่ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
  2. Finasteride - ฟีแนสเตอร์ไรด์ ยาชนิดนี้อยู่ในรูปของยากิน ใช้เพื่อรักษาภาวะศีรษะล้านรูปแบบผู้ชาย ยาจะออกฤทธิ์โดยลดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็น DHT ซึ่งทำให้เกิดภาวะผมร่วง ยาจะลดการหลุดร่วง และอาจกระตุ้นการขึ้นใหม่ของผม จะเริ่มเห็นผลของยาที่ระยะประมาณ 4 – 5 เดือน และจะต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี จึงจะเห็นผลชัดเจน ประสิทธิผลของยาอยู่ที่ประมาณ 60 – 80 % ขึ้นกับแต่ละบุคคล ยาค่อนข้างปลอดภัย มีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย ผลข้างเคียงที่อาจพบได้คือ ความต้องการทางเพศ และการแข็งตัวของอวัยวะเพศลดลงพบได้ประมาณ 1- 2 % ปริมาณน้ำอสุจิลดลง ผลข้างเคียงนี้จะกลับคืนสู่ปกติเมื่อหยุดการใช้ยา และอาจลดลงหรือหายไปได้เมื่อใช้ยาไประยะเวลาหนึ่ง ยาชนิดนี้ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิง และหากใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์ จะทำให้ทารกที่เกิดมาพิการได้
  3. Corticosteroids - สเตียรอยด์ ใช้ในการรักษาภาวะผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ผมร่วงจากอาการแพ้ อาจใช้ในรูปของยาฉีดเข้าที่บริเวณหนังศีรษะหรือยากิน ผมที่ขึ้นใหม่จะสังเกตเห็นได้หลังจากใช้ยาไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ ในบางครั้งอาจใช้ในรูปของยาทาได้
  4. Dutasteride - ดูทาสเตอร์ไรด์ เป็นยาใหม่ที่ใช้ในการรักษาต่อมลูกหมากโต และภาวะศีรษะล้านรูปแบบผู้ชาย ยาตัวนี้ออกฤทธิ์เหมือนกับ finasteride คือขัดขวางการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เป็น DHT ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดภาวะศีรษะล้านดังกล่าว ยาจะอยู่ในรูปของยากิน และยาทาเฉพาะที่หนังศีรษะ ผลข้างเคียงของยาคล้ายกับที่พบใน finasteride เช่น ความต้องการทางเพศลดลง การแข็งตัวของอวัยวะเพศลดลง ผลข้างเคียงนี้สามารถหายไปได้เมื่อหยุดใช้ยา หรือใช้ยาต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่ง อาการแพ้ยาพบได้น้อยมาก เช่น ผื่น คัน บวม เวียนศีรษะ ห้ามใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากทำให้ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติได้ จะเริ่มเห็นผลของยาภายหลังจากใช้ยาไปแล้วประมาณ 3 เดือน ยาตัวนี้ในปัจจุบันยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย

ขอบคุณ www.thaihaircenter.com และ www.winsalone.com

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ใครอยากตัดผมสั้นเข้ามาอ่านกันเลย


สาว ๆ ที่กำลังมองหา ทรงผมสั้น ที่เหมาะกับตัวเองอยู่ วันนี้เรามีแบบ ทรงผมสั้น เก๋ ๆ มาฝากคุณสาว ๆ เพียบ แต่ก่อนจะไปเปลี่ยนทรงผม เรามีเคล็ดลับการเลือกตัด ทรงผมสั้น ให้เข้ากับรูปหน้ามาฝากเป็นของแถมด้วย... 
หากคุณเป็นสาวหน้ากลม ทรงผมสั้น ที่คุณสามารถตัดได้คือ ผมสั้นแค่ระดับแนวขากรรไกร ไม่ควรตัดให้สั้นกว่านั้น เพราะจะยิ่งเน้นความกลมของใบหน้าให้เด่นชัด ส่วนจะตัดบ๊อบหรือสไลด์ก็ได้แล้วแต่ความชอบ
ทรงผมสั้น



สาวที่มีใบหน้ายาว ทรงผมสั้น ที่เหมาะกับรูปหน้าคือ ผมซอยด้านหน้าเป็นเลเยอร์หรือไล่ระดับถึงบริเวณคาง ผมบ๊อบซอยไล่ระดับก็เป็นอีกทรงที่เหมาะกับคนหน้ายาวทั้งหลาย เพราะจะช่วยทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบขึ้น 
ทรงผมสั้น




ส่วนสาวหน้าเหลี่ยม ทรงผมสั้น ที่เหมาะกับรูปหน้าคุณคือ ผมที่ตัดซอยไม่สั้นมาก ความยาวระดับไหล เป็นทรงที่เหมาะมากที่สุด ซึ่งจะช่วยอำพรางรูปหน้าให้เรียวขึ้น คุณไม่ควรตัดผมหน้าม้า หรือดัดผมเป็นลอนเด็ดขาด เพราะจะยิ่งเน้นบริเวณกรามให้ดูเหลี่ยมไปกันใหญ่
ทรงผมสั้น




สาวที่มีใบหน้ารูปหัวใจ ทรงผมสั้น ที่เหมาะกับรูปหน้าคุณคือ ผมบ๊อบสั้นประมาณบ่า และให้ตัดผมหน้าม้า เพื่ออำพรางบริเวณหน้าผากและแก้มที่กว้าง
ทรงผมสั้น




สำหรับสาวที่มีใบหน้ารูปไข่ ซึ่งเป็นใบหน้าที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ คุณสามารถตัด ทรงผมสั้น ทรงไหนก็ได้... โชคดีจริง ๆ 
ทรงผมสั้น




ตัวอย่างผมสั้นที่เอามาฝากกันค่ะ

ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น

 
ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ทรงผมสั้น


ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก 
http://www.kroobannok.com


วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

รังแค..รังควาญ

รังแครังควาญ...ถ้าเช่นนั้นมาดูสาเหตุกัน จะได้ผมสะอาด ปราศจากรังแค




1. น้ำอุ่น เพิ่มปริมาณรังแค : การสระผมด้วยน้ำอุ่นจะไปละลายชั้นไขมันบนหนังศีรษะออก ส่งผลให้หนังศีรษะแห้งและลอกเป็นขุย เกิดรังแคในที่สุด จึงควรเลิกสระผมด้วยน้ำอุ่น



2. แดดจัดจ้า : ตัวการทำลายผม ทำให้ผมชี้ฟู ขาดน้ำหนัก และไม่เงางาม แสงแดดจะเข้าไปทำลายโปรตีนในเส้นผม และทำให้ผมหยาบ จึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดด และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูที่ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก


3. สิงห์อมควัน ผมเสียไม่รู้ตัว : เพราะควันบุหรี่จะเกาะบนเส้นผมทำให้ผมขาดความมันเงา และส่งผลให้สภาพศีรษะแห้งกว่าปกติ


4. นวดบำบัด ขจัดรังแค : ทุกครั้งที่สระผม ควรนวดหนังศีรษะเบา ๆ จะช่วยผ่อนคลายความเครียด และขจัดเซลล์หนังศีรษะที่ตายให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น


5. ควรเลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ และควรล้างแชมพูให้สะอาดทุกครั้งหลังสระผมเพื่อขจัดสารเคมีที่ตกค้าง



6. หลังสระผมควรใช้ผ้าขนหนูที่แห้งสะอาดซับหนังศีรษะและเส้นผม ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าที่เปียกชื้นและไม่ใช้ผ้าร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการเกาที่ทำให้หนังศีรษะเกิดแผลอักเสบ


เพียงเท่านี้ ปัญหารังแคที่มีอยู่ก็จะหายไป อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันดูได้นะคะ





ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเดลินิวส์ และ เวป บ้านมหา ดอทคอมค่ะ